ความกังวลใจของ นางสาวเพ็ญศรี ปานรอด พี่สาวของ นางสาวอุษา ปานรอด ที่หายตัวไปพร้อมกับหลานๆ อีก 4 คนตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนจนถึงวันนี้ก็ยังไม่สามารถติดต่อได้ ทำให้กลัวว่า น้องสาวกับหลานๆ จะไม่ปลอดภัย

นางสาวเพ็ญศรี เล่าว่าแรกเริ่มเดิมที หลานสาว คือ "บีม" ไปทำงานที่ผับแห่งหนึ่ง แล้วรู้จักกับผู้หญิงที่ชื่อปลา จากนั้นปลาก็แนะนำให้บีม รู้จักกับ นายลมกรด หรือ “แบงค์” อีกทอดหนึ่ง

"จตุพร" ฟันเก้าอี้ประธานสภา หวังปูทางให้ "นายกลุงป้อม"

โผล่มาเพิ่ม! เพื่อไทยหลุด "ชูศักดิ์" ชิงเก้าอี้ประธานสภา

หลังจากนั้น บีม กับ แบงค์ ก็คบหากัน ระหว่างนั้น บีมก็ได้พา แบงค์มาที่บ้านพบนางอุษาซึ่งเป็นแม่ และพบกับญาติๆ

นางสาวเพ็ญศรี บอกว่าเท่าที่เห็น “นายแบงค์” เป็นคนแต่งตัวดี ดูภูมิฐาน เหมือนคนมีเงิน บางครั้งก็สวมสูทมาที่บ้าน และมักจะหว่านล้อมให้ “นางสาวอุษา” ลงทุนทำธุรกิจนด้วยกัน พร้อมยังบอกว่าจะรับเลี้ยงดูหลานๆ รวมถึงจะช่วยปิดหนี้สินให้กับครอบครัวของ นางอุษา ด้วย

ที่ผ่านมา “นางสาวเพ็ญศรี” บอกว่า เธอสงสัยมาตั้งแต่แรกแล้วว่า “นายแบงค์” น่าจะมาหลอกน้องสาว จึงพยายามเตือนให้ระวังตัว แต่น้องสาวไม่ฟัง แถมยังหลงเชื่อจนยอมขายที่ดิน ยืมเงินเพื่อนบ้านรวมแล้วหลายแสนบาท เพื่อเอาไปลงทุนกับ “นายแบงค์”

ก่อนที่ทั้งหมดจะหายตัวไป นางสาวเพ็ญศรี บอกว่า “นายแบงค์” ก็เทียวมาเทียวไปหาอยู่ประมาณ 10 วัน ก่อนที่จะมารับทั้ง 5 คนออกจากบ้านวันที่ 12 เมษายน โดยไม่ได้บอกว่าจะไปไหน จนวันที่ 14 เมษายน นางสาวอุษา โทรศัพท์ติดต่อมา พูดทำนองว่าให้ช่วยดูแลสวนทุเรียน โดยสังเกตว่าการพูดคุยในวันนั้นมีท่าทางแปลก เหมือนถูกบังคับให้พูด แล้วหลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อหา นางสาวอุษา ได้อีกเลย

"14 เมษายน เขาติดต่อมาครั้งหนึ่ง ติดต่อมาทางพี่สาว แล้วก็หลังจากนั้นก็คือหายไปเลย ครั้งสุดท้ายเขาบอกอะไรบ้างไหม เขาบอกให้แต่งสวนทุเรียนให้ ให้ฉีดยาทุเรียน ให้ไปเปิดน้ำทุเรียน แล้วเขาค่อยลงมาดูเขาบอกอย่างนั้น เขาบอกไหมว่าอยู่ที่ไหน เขาไม่บอก เขาแค่บอกว่าเขาจะไปเชียงใหม่ แต่ท่าทางที่เขาพูดเหมือนกับว่ากลัวอะไรสักอย่าง อาการเหมือนต้องรีบร้อนรน เหมือนใครบังคับให้พูด"

ย้อนดูพฤติกรรมของ “นายแบงค์” ที่เป็นคนมารับทั้ง 5 ชีวิตออกจากบ้านไป นายแบงค์ คบหาเป็นแฟนกับ นางสาวบีม ลูกของนางสาวอุษา

ตลอดเวลาที่รู้จักกัน นายแบงค์ พยายามชักชวน “นางอุษา” ร่วมลงทุน เป็นหุ้นส่วนปั้มน้ำมัน จนนางหลงเชื่อ ขายที่ดินได้เงินมา 300,000 บาท ก็โอนให้กับ “นายแบงค์” เท่านั้นไม่พอนายแบงค์ ก็หว่านล้อมลงทุนอีกหลายครั้ง รวมโอนเงินไปทั้งหมดกว่า 800,000 บาท แต่ “นายแบงค์” อ้างว่าบัญชีถูกอายัด เบิกเงินไม่ได้ ขอให้ “นางอุษา” หาเงินมาจำนวนหนึ่งใส่บัญชี เพื่อเอาเงิน 800,000 บาทออกมา จน “นางอุษา” ต้องขอยืมเงินญาติมาอีก 100,000 บาท คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

นอกจากนี้ยังมีข้อมูลจากชายคนหนึ่ง ที่อ้างว่าเป็นเพื่อนของนายแบงค์ เคยถูกหลอก และโกงเงินเมื่อ 5 ปีก่อน พร้อมทั้งยังบอกว่า ตัวนายแบงค์ มีคดีถูกแจ้งข้อหาฉ้อโกง ที่จังหวัดเชียงใหม่ด้วย

"ผมโดนไปไม่เยอะนะ ก็แค่มันหลอกทำงานให้มันนะ ค่ะ แต่มันมีเคสที่โดนไปล้านกว่า อ่อ แล้วงานที่ว่าเป็นงานแบบไหนคะ ถูกหลอกให้มาขับรถให้มันนั่นล่ะ แล้วก็พาไปโน่นไปนี่ มันหลอกกินกับเรานี่ล่ะ แต่มันไม่เอาเงินให้เรา ตอนนี้พี่ติดต่อแบงค์ได้บ้างไหมคะ ผมไม่ติดต่อมันตั้งหกปีแล้ว ผมโดนมาตั้งหกปีแล้ว"

อีกตัวละครที่มีการถูกพูดถึง ก็คือ นายนพดล แสนเมืองอินทร์ คนขับรถตู้คันที่ไปบุคคลทั้ง 5 คน วันนี้พนักงานสอบสวนเรียกตัวมาสอบสวนเพิ่มเติม

นายนพดล เล่าว่า เมื่อเดือนเมษายน ได้รับการติดต่อจาก นายแบงค์ เช่าเหมารถตู้ไปรับ แบงค์ และคนในครอบครัว จากจังหวัดนครศรีธรรมราช ไปเที่ยวเที่ยวพัทยา จังหวัดชลบุรี ช่วงปิดเทอม

ระหว่างที่ตระเวนเที่ยวที่พัทยาและจังหวัดใกล้เคียง วันที่ 30 เมษายน ญาติโทรศัพท์แจ้ง นายนพดล ว่าแม่เสียชีวิต เขาจึงเดินทางกลับ

ส่วน “นายแบงค์” ขอพาครอบครัวมาด้วย อ้างว่าจะไปเที่ยวเชียงใหม่ และเชียงราย ต่อ ช่วงที่เขาจัดงานศพให้แม่ระหว่างวันที่ 1 ถึง8 พฤษภาคม “นายแบงค์” ก็พาคนทั้งหมดไปเที่ยว จนวันที่ 10 พฤษภาคม ก็เอารถมาคืน แล้วก็ไม่รู้ว่าทั้งหมดไปที่ไหนต่อ

ล่าสุดมีรายงานว่าพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้เรียกนายตำรวจ ทั้งรองผู้กำกับการสืบสวนและรองผู้กำกับการสอบสวน ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน นำสำนวนเข้ารายงานคดีที่ สตช. เพื่อเร่งส่งทีมสืบสวนทั้งจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และกองบังคับการกองปราบปราม และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าคลี่คลายคดี

ขณะที่ พันตำรวจเอกต่อศักดิ์ สาลีรัตน์ ผู้กำกับการ สภ.ท่าศาลา ระบุว่าขณะนี้เร่งติดตามตัว นายลมกรด หรือ แบงค์ ที่เป็นคีย์แมนคนสำคัญของคดี เบื้องต้นพบประวัติมีคดีฉ้อโกง 1 คดี แต่คดีได้มีการยอมความกันไปแล้ว และจากพฤติกรรมยังไม่พบลักษณะที่โหดร้ายรุนแรง จึงมั่นใจว่าทั้ง 5 คนยังคงปลอดภัย