“การฌาปนกิจศพ” ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม เพราะที่ผ่านมา การฌาปนกิจศพด้วยการเผาถือเป็นหนึ่งในแหล่งปล่อยคาร์บอนและมลพิษทางอากาศที่สำคัญ ขณะที่การดองศพฝังใส่โลงก็ทำให้ดินปนเปื้อนสารพิษ

นั่นทำให้หลายประเทศพยายามที่จะหาทางออกในการฌาปนกิจศพแบบไร้มลพิษหรือลดการปล่อยมลพิษลง เช่น การนำศพไปทำเป็นปุ๋ยให้พืชพรรณ ซึ่งนอกจากจะลดการเผาหรือฝังศพตามปกติแล้ว ยังทำให้ความตายของเราก่อเกิดชีวิตใหม่ ๆ ขึ้นมา

อีกหนึ่งทางเลือกใหม่ของการลดมลพิษและการปล่อยคารืบอนจากกระบวนการฌาปนกิจศพ ที่เริ่มมีการนำมาใช้จริงในบางประเทศ และกำลังจะใช้จริงปีนี้ในสหราชอาณาจักร นั่นคือ “การฌาปนกิจศพด้วยน้ำ” (Water Cremation) หรือมีอีกชื่อว่า “ฌาปนกิจแบบต้มในถุง”

นักวิทย์ประเมิน ภูมิภาคอาร์กติกในฤดูร้อน จะไม่มีน้ำแข็งอีกต่อไป

“มนุษย์ทนร้อนได้แค่ไหน?” คำถามสำคัญเมื่ออากาศเมืองไทยร้อนเหลือเกิน

วิจัยใหม่พบ แทบไม่มีที่ใดในโลก ปลอดภัยจากมลพิษอากาศ คำพูดจาก สล็อตวอเลท

การฌาปนกิจศพด้วยน้ำเป็นกระบวนการที่จะนำศพผู้เสียชีวิตใส่ใน “ถุงชีวภาพ” ที่ทำจากแป้งข้าวโพด จากนั้นทำการ “ละลายศพ” ด้วยการวางไว้ในถังที่ปิดสนิท ภายในจะเติมน้ำเข้าไป 95% และที่เหลือจะใส่โพแทสเซียมไฮดรอกไซด์ แล้วให้ความร้อนประมาณ 160 องศาเซลเซียส

ในเวลา 4 ชั่วโมง ทุกอย่างยกเว้นโครงกระดูกจะสลายไป

สำหรับน้ำผสมโพแทสเซียมไฮดรอกไซด์ที่ใช้ในการละลายศพ ได้มีการทดสอบว่า เมื่อใช้เสร็จแล้ว ไม่มีความเสี่ยงใด ๆ และไม่พบ DNA ในตัวอย่าง จึงได้รับอนุมัติให้สามารถปล่อยสารละลายลงสู่ระบบระบายน้ำตามปกติได้

มีรายงานว่า “วิธีการดังกล่าวจะปล่อยคาร์บอนน้อยกว่าการเผาศพประมาณครึ่งหนึ่ง” โดยกระบวนการนี้จะยังคงหลงเหลืออัฐิของผู้เสียชีวิตเอาไว้ สามารถส่งกลับไปให้ครอบครัวในลักษณะเดียวกับอัฐิที่เกิดจากการเผาศพได้

ปัจจุบัน การฌาปนกิจศพด้วยน้ำได้รับการรับรองให้เป็นเรื่องถูกกฎหมายแล้วในรัฐส่วนใหญ่ของสหรัฐฯ แคนาดา และแอฟริกาใต้ โดยเมื่อปีที่แล้ว พิธีศพของอัครสังฆราชเดสมอนด์ ตูตู ซึ่งเสียชีวิต ก็ได้รับการฌาปนกิจศพด้วยน้ำเช่นกัน

นอกจากนี้ มันยังถูกกฎหมายในสหราชอาณาจักร แต่ที่ผ่านมาใช้เฉพาะในการทดลองแบบจำกัดเท่านั้น โดยมีจุดประสงค์เพื่อทดสอบว่า สารละลายที่เกิดระหว่างกระบวนการฌาปนกิจศพด้วยน้ำปลอดภัยที่จะปล่อยลงสู่ระบบระบายน้ำหรือไม่ และนับเป็นวิธีการจัดการศพแบบใหม่ของสหราชอาณาจักร นับตั้งแต่มีกฎหมายพระราชบัญญัติการเผาศพปี 1902

หลายฝ่ายในสหาชอาณาจักรได้สนับสนุนการฌาปนกิจศพแบบใหม่นี้ โดยอธิบายว่า “นี่เป็นการฌาปนกิจที่อ่อนโยนต่อทั้งร่างกายและสิ่งแวดล้อม”

มีรายงานว่า Co-op Funeralcare ซึ่งเป็นหน่วยงานสัปเหร่อที่ใหญ่ที่สุดของสหราชอาณาจักร มีแนวโน้มที่จะเริ่มให้บริการการฌาปนกิจศพด้วยน้ำในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอังกฤษในปีนี้

ผลการสำรวจเบื้องต้นพบว่า แทบไม่มีใครในหมู่ประชาชนชาวอังกฤษเคยได้ยินเกี่ยวกับวิธีฌาปนิกิจศพแบบนี้มาก่อน แต่เมื่ออธิบายให้พวกเขาฟังแล้ว มีเพียง 1 ใน 3 ที่กล่าวว่าพวกเขาจะเลือกวิธีการฌาปนกิจศพแบบนี้ในงานศพของตัวเอง

จูเลียน แอตคินสัน อดีตช่างทำโลงศพ กล่าวว่า “การเริ่มให้บริการฌาปนิกิจศพด้วยน้ำในสหราชอาณาจักร จะช่วยให้ผู้คนมีทางเลือกอีกทางหนึ่งในการจากโลกนี้ไป เพราะกระบวนการทางธรรมชาตินี้ใช้น้ำ ไม่ใช่ไฟ ทำให้อ่อนโยนต่อร่างกายและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม”

แอตคินสันเสริมว่า “เราดีใจที่ได้เห็นว่า ประชาชนจำนวนมากมีจิตสำนึกในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ แม้ว่าจะเสียชีวิตไปแล้วก็ตาม”

เรียบเรียงจาก The Guardian

ภาพจาก Getty Image